รหัส VIN ของรถยนต์: คืออะไร มีไว้เพื่ออะไร
รหัส VIN ประกอบด้วย 17 ตัวอักษร มอบให้แก่ยานพาหนะทุกคันเพื่อการระบุตัวตน

รหัส VIN (Vehicle Identification Number) — รหัสที่ประกอบด้วย 17 ตัวอักษร มอบให้แก่ยานพาหนะทุกคันเพื่อการระบุตัวตน รหัสนี้เป็นเอกลักษณ์ และใช้เพื่อระบุผู้ผลิต ข้อมูลทางเทคนิคและปีที่ผลิตรถยนต์ นอกจากนี้ยังใช้ในการจดทะเบียน บำรุงรักษา ขายยานพาหนะและคัดเลือกชิ้นส่วน
โครงสร้างของรหัส VIN
รหัส VIN ประกอบด้วยสามส่วนหลัก ๆ:
WMI(World Manufacturer Identifier) — อักษรสามตัวแรก หมายถึงผู้ผลิตและภูมิภาคที่ประกอบ เช่น:
- "1HG" — Honda, สหรัฐอเมริกา
- "WAU" — Audi, เยอรมนี
- "JTD" — Toyota, ญี่ปุ่น
- "3VW" — Volkswagen, เม็กซิโก
VDS (Vehicle Descriptor Section) — ตัวอักษรจากตัวที่ 4 ถึง 9 ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับประเภทตัวถัง เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ และคุณลักษณะอื่น ๆ:
- รหัส "8G87" อาจเป็นการแสดงถึงคูเป้ที่มีเครื่องยนต์ V8 ที่กำหนด
- "FD3S" — หมายถึงคูเป้กีฬาของ Mazda RX-7 ที่มีเครื่องยนต์โรตารี
- "5YJ3" — หมายถึงรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla Model 3
VIS(Vehicle Identifier Section) — อักษรสุดท้าย 8 ตัว รวมถึงหมายเลขลำดับ ปีที่ผลิต และโรงงานผู้ผลิต:
- อักษรตัวที่สิบ "M" หมายถึงปี 2021
- อักษร "5" อาจจะหมายถึงโรงงานในสหรัฐอเมริกา ส่วน "X" — การผลิตในยุโรป
ตัวอย่างหมายเลขลำดับ: "123456"
ที่หาของรหัส VIN
รหัส VIN ถูกระบุไว้ทั้งในรถยนต์เองและในเอกสารประกอบ สามารถหาตำแหน่งรหัสได้ตามตำแหน่งต่อไปนี้ในรถ:
- ส่วนล่างของกระจกหน้าฝั่งผู้ขับ
- ที่เสาประตู้ผู้ขับ (ป้ายหรือสติกเกอร์)
- ใต้ฝากระโปรงหน้าบนแผงเครื่องยนต์หรือตัวโครง
- ในที่เก็บสัมภาระ, บนพื้นหรือใต้ล้อสำรอง
- บนเครื่องยนต์หรือน้ำมันเกียร์ (ในบางครั้ง)
- ในเอกสารระบุรหัส VIN อยู่ในใบจดทะเบียน ทางเทคนิคแพสพอร์ตและสัญญาประกันภัย
ตัวอย่างการใช้งานรหัส VIN
- ตรวจสอบประวัติรถยนต์ ด้วยรหัส VIN สามารถทราบได้ว่ารถยนต์คันนั้นเคยประสบอุบัติเหตุหรือไม่, อยู่ระหว่างการขโมยหรือถูกกักขังหรือไม่, รวมถึงระยะเวลาที่ใช้ รถยนต์ในสหรัฐอเมริกาสามารถตรวจสอบได้จาก Carfax ที่ให้ข้อมูลอ้างอิงเหล่านี้
- คัดเลือกชิ้นส่วน รหัส VIN ช่วยให้ระบุสเปกของรถได้ชัดเจน เช่น ขนาดเครื่องยนต์หรือประเภทของช่วงล่าง ซึ่งจะช่วยในการเลือกชิ้นส่วนที่เหมาะสม
- ตรวจสอบความถูกต้อง รหัส VIN เป็นเอกลักษณ์สำหรับแต่ละยานพาหนะ หากรหัสในเอกสารและในรถยนต์ไม่ตรงกันอาจบ่งชี้ถึงปัญหาทางกฎหมายของยานพาหนะ
- การประกันภัยและการจดทะเบียน บริษัทต่าง ๆ จะใช้รหัส VIN ในการทำแผนประกันภัยและตรวจสอบความถูกต้องทางกฎหมายของรถ
วิธีตรวจสอบรหัส VIN
มีเครื่องมือออนไลน์มากมายสำหรับการตรวจสอบรหัส VIN ซึ่งสามารถแยกได้ดังนี้:
- Carfax และ AutoCheck — บริการระหว่างประเทศยอดนิยมที่ให้รายงานรายละเอียดเกี่ยวกับยานพาหนะรวมถึงประวัติการบำรุงรักษาและอุบัติเหตุทางถนน และสถานะทางกฎหมาย
- ฐานข้อมูลระดับชาติ — เช่น NICB ในสหรัฐอเมริกาที่ให้บริการตรวจสอบว่ามีการขโมยหรือไม่ฟรี
- รายงานที่มีการชำระเงินมักมีข้อมูลที่ละเอียดกว่า เช่น ระยะทางหรือจำนวนเจ้าของก่อนที่ผ่านมา การตรวจสอบฟรีมักจำกัดอยู่ที่ข้อมูลพื้นฐาน
รหัส VIN — คือกุญแจสู่ประวัติของรถยนต์ การตรวจสอบรหัสนี้ก่อนการซื้อสามารถช่วยให้หลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและทางเทคนิค การใช้รหัส VIN เป็นประจำจะเป็นประโยชน์ในการค้นหาชิ้นส่วนและการบำรุงรักษา ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าป้ายที่มีรหัส VIN ไม่ได้รับความเสียหาย และหมายเลขตรงกับที่ระบุไว้ใน เอกสาร ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบผ่านบริการออนไลน์ที่เชื่อถือได้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อหรือการใช้ยานพาหนะในการขับขี่
คุณอาจสนใจข่าวสารด้วย:

ในประเทศที่หนาวเย็น Tesla จะอุ่นพวงมาลัยโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากผู้ขับขี่
Tesla ได้อัปเดตระบบทำความร้อนของพวงมาลัยในรถยนต์ไฟฟ้าของตน - 1800

ความหนาขั้นต่ำของดิสก์เบรก: ควรเป็นเท่าใดและควรใส่ใจอะไรบ้าง?
ดิสก์เบรก - หนึ่งในองค์ประกอบหลักของความปลอดภัยของรถยนต์ ในบทความนี้เราจะพิจารณาหลักการทำงานของดิสก์เบรก สัญญาณหลักของการสึกหรอ และเกณฑ์ที่ชัดเจนเมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยน - 1618

อินเตอร์คูลเลอร์คืออะไร ทำไมจึงจำเป็นและทำงานอย่างไร
ทุกเรื่องเกี่ยวกับอินเตอร์คูลเลอร์: การใช้งาน, ตำแหน่ง, หลักการทำงาน, ชนิดของเครื่อง - 1540

ชุดเกียร์อัตโนมัติในตำนานที่เชื่อถือได้จริงๆ
รถยนต์สมัยใหม่เกือบจะไม่มีภาพลักษณ์หากไม่มีระบบเกียร์อัตโนมัติ ทุกวันนี้ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับรถยนต์ที่มีเกียร์อัตโนมัติก่อนเป็นอันดับแรก - 1379

ทำไมยางรถยนต์ถึงเป็นสีดำทั้งที่ยางเดิมทีเป็นสีขาว!
ยางสีดำกลายเป็นมาตรฐาน แต่ยางรถยนต์ในยุคแรกกลับเป็นสีขาว ทำไมสิ่งที่เคยเป็นสีขาวถึงเปลี่ยนเป็นสีดำ? - 1223